คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 10
รูปกายอยู่ในสภาวะไหนก็รู้ นามกายอยู่ในสภาวะไหนก็รู้ การรู้ดังนี้ ถือว่าเป็นบุคคลที่มีสติตั้งมั่นแล้ว เมื่อสติตั้งมั่นสมาธิจึงเกิด
เมื่อรู้การเกิดขึ้นของรูปนามแต่ละสภาวะ รู้การตั้งอยู่ของรูปนามแต่ละสภาวะ เสื่อมลงของรูปนามแต่ละสภาวะ เมื่อรู้ว่ารูปนามมีการแปรปรวนตามธรรมชาติของมันอยู่อย่างนี้ ถือว่าเป็นผู้เห็นถูกแล้ว สัมมาทิฏฐิเกิดแล้ว
เมื่อเกิดสัมมาทิฏฐิแล้ว สัมมาสังกัปปะ ความความคิดดำริตริตรองที่ชอบถูกต้องงดงามก็เกิดตามมา
เมื่อเกิดสัมมาสังกัปปะแล้ว สัมมาวาจาเกิดตามมา คือ การบริกรรมที่ดี เช่น มันไม่แนะนอน มันเป็นทุกข์ มันไม่เป็นของเรา แล้วมันจะเสื่อมสลายไปในที่สุด
เมื่อเกิดสัมมาวาจาแล้ว สัมมากัมมันตะมาประคองไว้ให้อยู่ในการกระทำประพฤติในสิ่งที่ดีชอบถูกต้องงดงามต่อไป
เมื่อเกิดสัมมากัมมันตะแล้ว สัมมาอาชีวะก็เกิดตามโดยอัตโนมัติ คือ ดำรงชีวิตที่เป็นไปในทางที่ดีชอบถูกต้องงดงาม
เมื่อเกิดสัมมาอาชีวะแล้ว รู้สึกอยากจะดำรงสัมมาวายามะไว้ ซึ่งเกิดความพากเพียรไม่ย่อท้อในการรักษาความดีชอบถูกต้องงดงามนั้นต่อไป
เมื่อเกิดมัมมาวายามะแล้ว อยู่ ๆ สัมมาสติเกิดทันต่อปฏิกิริยาของ กาย เวทนา จิต และธรรมต่าง ๆ
เมื่อเกิดสัมมาสติแล้ว สัมมาสมาธิเกิดตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทำให้ตั้งมั่นจดจ่ออยู่ในสตินั้น ๆ จนกว่าจะเกิดความรู้ที่แท้จริง แยกแยะออกว่า อะไรคือกุศล อะไรคืออกุศล และอะไรคือไม่ใช่ทั้งสองอย่าง ซึ่งนำพาให้เกิดปัญญาแก่กล้านั้นเอง
และแล้วท่านก็จะพบกับความสงบที่แท้จริง
เมื่อรู้การเกิดขึ้นของรูปนามแต่ละสภาวะ รู้การตั้งอยู่ของรูปนามแต่ละสภาวะ เสื่อมลงของรูปนามแต่ละสภาวะ เมื่อรู้ว่ารูปนามมีการแปรปรวนตามธรรมชาติของมันอยู่อย่างนี้ ถือว่าเป็นผู้เห็นถูกแล้ว สัมมาทิฏฐิเกิดแล้ว
เมื่อเกิดสัมมาทิฏฐิแล้ว สัมมาสังกัปปะ ความความคิดดำริตริตรองที่ชอบถูกต้องงดงามก็เกิดตามมา
เมื่อเกิดสัมมาสังกัปปะแล้ว สัมมาวาจาเกิดตามมา คือ การบริกรรมที่ดี เช่น มันไม่แนะนอน มันเป็นทุกข์ มันไม่เป็นของเรา แล้วมันจะเสื่อมสลายไปในที่สุด
เมื่อเกิดสัมมาวาจาแล้ว สัมมากัมมันตะมาประคองไว้ให้อยู่ในการกระทำประพฤติในสิ่งที่ดีชอบถูกต้องงดงามต่อไป
เมื่อเกิดสัมมากัมมันตะแล้ว สัมมาอาชีวะก็เกิดตามโดยอัตโนมัติ คือ ดำรงชีวิตที่เป็นไปในทางที่ดีชอบถูกต้องงดงาม
เมื่อเกิดสัมมาอาชีวะแล้ว รู้สึกอยากจะดำรงสัมมาวายามะไว้ ซึ่งเกิดความพากเพียรไม่ย่อท้อในการรักษาความดีชอบถูกต้องงดงามนั้นต่อไป
เมื่อเกิดมัมมาวายามะแล้ว อยู่ ๆ สัมมาสติเกิดทันต่อปฏิกิริยาของ กาย เวทนา จิต และธรรมต่าง ๆ
เมื่อเกิดสัมมาสติแล้ว สัมมาสมาธิเกิดตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทำให้ตั้งมั่นจดจ่ออยู่ในสตินั้น ๆ จนกว่าจะเกิดความรู้ที่แท้จริง แยกแยะออกว่า อะไรคือกุศล อะไรคืออกุศล และอะไรคือไม่ใช่ทั้งสองอย่าง ซึ่งนำพาให้เกิดปัญญาแก่กล้านั้นเอง
และแล้วท่านก็จะพบกับความสงบที่แท้จริง
แสดงความคิดเห็น
ปรึกษาผู้รู้เกี่ยวกับผลของปฏิบัติธรรมหน่อยค่ะ